ขอสรุปสั้นๆนะครับ การรายงานข่าวการพยายามฆ่าตัวตายของแตงโม การพยายามฆ่าตัวตายของสิงห์ สื่อบ้านเราลงรายละเอียด"มาก"เกินไปครับ
การฆ่าตัวตายถ้ารายงานข่าวอย่างไม่ระวังอาจจะส่งผลให้เกิดการเลียนแบบขึ้นได้ มีศัพท์เรียกอยู่ว่า Suicide Contagion หรือ Copycat Suicide ครับ คือการฆ่าตัวตายเลียนแบบวิธีการที่มีคนใช้มาก่อน โดยการรับทราบจากวิธีการใดๆรวมถึงการรับสื่อครับ อาจจะเกิดจากการฆ่าตัวตายกันในท้องถิ่น ชุมชน หรือผลจากการนำเสนอข่าวการฆ่าตัวตายของคนมีชื่อเสียงครับ
การฆ่าตัวตายเลียนแบบกันนี้บางครั้งอาจจะมีจำนวนเพิ่มสูงได้หลังจากที่มีการนำเสนอข่าวการฆ่าตัวตายอย่างครึกโครมขึ้นมาครับ (มีศักท์เฉพาะเลยนะครับเรียกว่า Werther Effect)
เพื่อไม่ให้เป็นการขยายความมากเกินไปจนกระทู้นี้จะเป็นส่วนนึงที่ทำผิดเสียเอง ขอยกตัวอย่างของศิลปินต่างประเทศที่ชัดเจนว่าทำให้เกิด Suicide Contagion นะครับ มาริลีน มอนโร หรือฮิเดะ ศิลปินต่างประเทศที่ฆ่าตัวตายมีผลให้เกิดการฆ่าตัวตายเลียนแบบขึ้นมาในสังคมจริงๆ หรือแม้แต่คนทั่วไปที่มีการฆ่าตัวตายที่ส่งผลกระทบต่อสังคมรุนแรงก็ทำให้เกิดการฆ่าตัวตายตามกันได้เช่นกันครับ
กระทู้นี้ขอเล็งมาที่สื่อบ้านเรานะครับ รายงานข่าวการฆ่าตัวตายที่ดีควรจะเป็นไปตามนี้
1.งดการพูดถึงรายละเอียดของวิธีการฆ่าตัวตาย
2.ไม่ควรระบุถึงสถานที่ที่ผู้ตายกระทำอัตวินิบาตกรรม
3.งดใช้คำศัพท์รุนแรงกระตุ้นความรู้สึกของผู้คน(ไอ้ศัพท์ Clickbait ทั้งหลายอย่าง ช็อค ตะลึง คาดไม่ถึง ไม่น่าเชื่อ ไม่ควรใช้เลยครับ)
4.ไม่ควรระบุว่าการฆ่าตัวตายไม่มีเค้าลางบอกเหตุ
5.หากผู้ตายทิ้งโน้ตไว้ก็ไม่ควรลงรายละเอียดไปยังเนื้อความของโน้ตด้วยครับ
6.หากมีการฆ่าตัวตายเลียนแบบกันไม่ควรอย่างยิ่งที่จะสื่อว่าเป็นเหตุการณ์เหี่ยวข้องกันหรือเลียนแบบมาจากกรณีอื่นๆ
7.สัมภาษณ์ตำรวจ/คนใกล้ชิดถึงสาเหตุที่ผู้ตายตัดสินใจฆ่าตัวตาย(ตรงนี้ควรสัมภาษณ์นักจิตวิทยาเรื่องการป้องกันการฆ่าตัวตายแต่ต้นดีกว่า)
8.พูดถึงการทำอัตวินิบาตกรรมว่า "ฆ่าตัวตายสำเร็จ" "ฆ่าตัวตายไม่สำเร็จ" "พยายามฆ่าตัวตายแต่ล้มเหลว" ระบุแค่ทำการฆ่าตัวตายก็เพียงพอแล้ว
จากแนวทางเบื้องต้น มีข้อไหนบ้างครับที่สื่อไทยทำดีแล้ว? หรือทำผิดเสียทุกข้อครับ?
เอกสารอ้างอิงต่อไปนี้ผมคิดว่าเป็นประโยชน์นะครับ ถ้าเป็นไปได้ช่วยส่งต่อกันให้ความรู้กันในสังคมด้วยครับผม
อยากให้เคสสิงห์เป็นเคสสุดท้ายที่สื่อบ้านเราจะเลิกพาดหัวข่าวแรงๆดึงดูดความสนใจคนครับ มีผลการวิจัยที่สนับสนุนเรื่องผลกระทบจากการนำเสนอข่าวการฆ่าตัวตายต่อสังคมมาหลายชิ้นแล้วครับ สื่อบ้านเรานอกจากความทันสมัยของเครื่องไม้เครื่องมือและวิธีการนำเสนอข่าวแล้วอยากให้พัฒนาเรื่องความรู้เรื่องผลกระทบต่อหน้าที่ตัวเองต่อสังคมด้วยครับผม
และขอแปลเสริมจากภาพเอกสารที่ลงไว้อีกนิด การฆ่าตัวตายเกือบทั้งหมดล้วนแต่มีสัญญาณเตือนครับ ที่ผ่านมาเราสังเกตุมันดีแล้วหรือเปล่า เรามองโลกในแง่ดรมากไปหรือเปล่า หรือเราเองยังไม่รู้ว่าสัญญาณเหล่านี้มีอะไรบ้าง สัญญาณเตือนการฆ่าตัวตายมีอะไรบ้างเราลองดูอาการคนรอบข้างสักนิดนะครับว่ามีอาการแบบนี้บ้างหรือเปล่า
- พูดว่าต้องการที่จะตาย
- มองหาวิธีการฆ่าตัวตาย
- แสดงออกถึงความสิ้นหวัง หรือไร้จุดมุ่งหมายในชีวิต
- พูดถึงความรู้สึกไร้อิสระ รู้สึกเจ็บปวดจนแทบทนไม่ได้
- รู้สึกตัวเองเป็นภาระของผู้อื่น
- ใช้ยาหรือดื่มสุรามากขึ้น
- กลายเป็นคนขี้วิตก กระสับกระส่าย หรือทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลัง
- นอนน้อยไปหรือมากไป
- ปลีกตัวห่างจากสังคม
- แสดงอาการกราดเกรี้ยวหรือจ้องจะล้างแค้นใครสักคนหรืออะไสักอย่าง
- อารมณ์เปลี่ยนไปมาอย่างรุนแรง
แหล่งที่มา: แปลมาจากสองลิงค์ล่างครับ
https://www.afsp.org/news-events/for-the-media/reporting-on-suicide
https://en.wikipedia.org/wiki/Copycat_suicide
และขอเสริมครับ หากคุณเองเป็นคนที่กำลังมีปัญหาหรือคนใกล้ตัวมีปัญหา ลองปรึกษาตามนี้ดูครับ
สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่น โทร. 02- 254-7798 เวลา 09.00-15.00 น.
สถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา โทร 02-442-2500 เวลา 08.30-16.30 น.
โรงพยาบาลศรีธัญญา โทร 02- 525-0981 ตลอด 24 ชั่วโมง
สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ โทร 02-889-9066 เวลา 08.30-16.30 น.
สะมาริตันส์ โทร (02) 713-6793 เวลา เที่ยง-22:00 น. ทุกวัน
หรืออ่านเพิ่มเติมตามบทความของภาควิชาจิตเวชศาสตร์คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ผมเอาเบอร์ติดต่อข้างต้นมาจากบทความนี้แหละครับ
http://rama4.mahidol.ac.th/ramamental/?q=generalknowledge/general/09042014-1134
กรณีแตงโมมาถึงสิงห์ ผมคิดว่าสื่อไทยสื่อข่าวอย่างไม่ระมัดระวังครับ
การฆ่าตัวตายถ้ารายงานข่าวอย่างไม่ระวังอาจจะส่งผลให้เกิดการเลียนแบบขึ้นได้ มีศัพท์เรียกอยู่ว่า Suicide Contagion หรือ Copycat Suicide ครับ คือการฆ่าตัวตายเลียนแบบวิธีการที่มีคนใช้มาก่อน โดยการรับทราบจากวิธีการใดๆรวมถึงการรับสื่อครับ อาจจะเกิดจากการฆ่าตัวตายกันในท้องถิ่น ชุมชน หรือผลจากการนำเสนอข่าวการฆ่าตัวตายของคนมีชื่อเสียงครับ
การฆ่าตัวตายเลียนแบบกันนี้บางครั้งอาจจะมีจำนวนเพิ่มสูงได้หลังจากที่มีการนำเสนอข่าวการฆ่าตัวตายอย่างครึกโครมขึ้นมาครับ (มีศักท์เฉพาะเลยนะครับเรียกว่า Werther Effect)
เพื่อไม่ให้เป็นการขยายความมากเกินไปจนกระทู้นี้จะเป็นส่วนนึงที่ทำผิดเสียเอง ขอยกตัวอย่างของศิลปินต่างประเทศที่ชัดเจนว่าทำให้เกิด Suicide Contagion นะครับ มาริลีน มอนโร หรือฮิเดะ ศิลปินต่างประเทศที่ฆ่าตัวตายมีผลให้เกิดการฆ่าตัวตายเลียนแบบขึ้นมาในสังคมจริงๆ หรือแม้แต่คนทั่วไปที่มีการฆ่าตัวตายที่ส่งผลกระทบต่อสังคมรุนแรงก็ทำให้เกิดการฆ่าตัวตายตามกันได้เช่นกันครับ
กระทู้นี้ขอเล็งมาที่สื่อบ้านเรานะครับ รายงานข่าวการฆ่าตัวตายที่ดีควรจะเป็นไปตามนี้
1.งดการพูดถึงรายละเอียดของวิธีการฆ่าตัวตาย
2.ไม่ควรระบุถึงสถานที่ที่ผู้ตายกระทำอัตวินิบาตกรรม
3.งดใช้คำศัพท์รุนแรงกระตุ้นความรู้สึกของผู้คน(ไอ้ศัพท์ Clickbait ทั้งหลายอย่าง ช็อค ตะลึง คาดไม่ถึง ไม่น่าเชื่อ ไม่ควรใช้เลยครับ)
4.ไม่ควรระบุว่าการฆ่าตัวตายไม่มีเค้าลางบอกเหตุ
5.หากผู้ตายทิ้งโน้ตไว้ก็ไม่ควรลงรายละเอียดไปยังเนื้อความของโน้ตด้วยครับ
6.หากมีการฆ่าตัวตายเลียนแบบกันไม่ควรอย่างยิ่งที่จะสื่อว่าเป็นเหตุการณ์เหี่ยวข้องกันหรือเลียนแบบมาจากกรณีอื่นๆ
7.สัมภาษณ์ตำรวจ/คนใกล้ชิดถึงสาเหตุที่ผู้ตายตัดสินใจฆ่าตัวตาย(ตรงนี้ควรสัมภาษณ์นักจิตวิทยาเรื่องการป้องกันการฆ่าตัวตายแต่ต้นดีกว่า)
8.พูดถึงการทำอัตวินิบาตกรรมว่า "ฆ่าตัวตายสำเร็จ" "ฆ่าตัวตายไม่สำเร็จ" "พยายามฆ่าตัวตายแต่ล้มเหลว" ระบุแค่ทำการฆ่าตัวตายก็เพียงพอแล้ว
จากแนวทางเบื้องต้น มีข้อไหนบ้างครับที่สื่อไทยทำดีแล้ว? หรือทำผิดเสียทุกข้อครับ?
เอกสารอ้างอิงต่อไปนี้ผมคิดว่าเป็นประโยชน์นะครับ ถ้าเป็นไปได้ช่วยส่งต่อกันให้ความรู้กันในสังคมด้วยครับผม
อยากให้เคสสิงห์เป็นเคสสุดท้ายที่สื่อบ้านเราจะเลิกพาดหัวข่าวแรงๆดึงดูดความสนใจคนครับ มีผลการวิจัยที่สนับสนุนเรื่องผลกระทบจากการนำเสนอข่าวการฆ่าตัวตายต่อสังคมมาหลายชิ้นแล้วครับ สื่อบ้านเรานอกจากความทันสมัยของเครื่องไม้เครื่องมือและวิธีการนำเสนอข่าวแล้วอยากให้พัฒนาเรื่องความรู้เรื่องผลกระทบต่อหน้าที่ตัวเองต่อสังคมด้วยครับผม
และขอแปลเสริมจากภาพเอกสารที่ลงไว้อีกนิด การฆ่าตัวตายเกือบทั้งหมดล้วนแต่มีสัญญาณเตือนครับ ที่ผ่านมาเราสังเกตุมันดีแล้วหรือเปล่า เรามองโลกในแง่ดรมากไปหรือเปล่า หรือเราเองยังไม่รู้ว่าสัญญาณเหล่านี้มีอะไรบ้าง สัญญาณเตือนการฆ่าตัวตายมีอะไรบ้างเราลองดูอาการคนรอบข้างสักนิดนะครับว่ามีอาการแบบนี้บ้างหรือเปล่า
- พูดว่าต้องการที่จะตาย
- มองหาวิธีการฆ่าตัวตาย
- แสดงออกถึงความสิ้นหวัง หรือไร้จุดมุ่งหมายในชีวิต
- พูดถึงความรู้สึกไร้อิสระ รู้สึกเจ็บปวดจนแทบทนไม่ได้
- รู้สึกตัวเองเป็นภาระของผู้อื่น
- ใช้ยาหรือดื่มสุรามากขึ้น
- กลายเป็นคนขี้วิตก กระสับกระส่าย หรือทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลัง
- นอนน้อยไปหรือมากไป
- ปลีกตัวห่างจากสังคม
- แสดงอาการกราดเกรี้ยวหรือจ้องจะล้างแค้นใครสักคนหรืออะไสักอย่าง
- อารมณ์เปลี่ยนไปมาอย่างรุนแรง
แหล่งที่มา: แปลมาจากสองลิงค์ล่างครับ
https://www.afsp.org/news-events/for-the-media/reporting-on-suicide
https://en.wikipedia.org/wiki/Copycat_suicide
และขอเสริมครับ หากคุณเองเป็นคนที่กำลังมีปัญหาหรือคนใกล้ตัวมีปัญหา ลองปรึกษาตามนี้ดูครับ
สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่น โทร. 02- 254-7798 เวลา 09.00-15.00 น.
สถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา โทร 02-442-2500 เวลา 08.30-16.30 น.
โรงพยาบาลศรีธัญญา โทร 02- 525-0981 ตลอด 24 ชั่วโมง
สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ โทร 02-889-9066 เวลา 08.30-16.30 น.
สะมาริตันส์ โทร (02) 713-6793 เวลา เที่ยง-22:00 น. ทุกวัน
หรืออ่านเพิ่มเติมตามบทความของภาควิชาจิตเวชศาสตร์คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ผมเอาเบอร์ติดต่อข้างต้นมาจากบทความนี้แหละครับ http://rama4.mahidol.ac.th/ramamental/?q=generalknowledge/general/09042014-1134